คำถามนี้เป็นคำถามที่หมอถูกถามบ่อยมากในช่วงที่ผ่านมา
เปิดเพราะรู้สึกหลากหลายจนต้องเปิด คงเป็นคำตอบที่ตรงที่สุด…

ความรู้สึกที่อยากจะช่วยเหลือคนแต่ละคนและครอบครัวให้ฟื้นตัวจากความเจ็บป่วยทางกายและใจตามที่ได้เรียนฝึกฝนมา
ความรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นผู้รับบริการแต่ละคนมีอาการน้อยลง สุขสงบขึ้นจนสามารถกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองได้เหมือนเดิม
ความรู้สึกร่วมของวิชาชีพทางสุขภาพจิตที่อยากเห็นสังคมไทย มีความเครียดจากปัญหาทางสมองและจิตใจลดลง

ในฐานะจิตแพทย์ หมอกังวลใจที่เห็นคนในสังคมทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยทางจิตใจ จนบางครั้งถึงกับฆ่าตัวตายทำร้ายตัวเอง เราเห็นเราได้ข่าวการสูญเสียคนที่มีคุณค่าในสังคมของเราไม่ว่าจะอยู่ในระบบสังคมย่อยใดๆจากไป เรารู้สึกเสียใจ เสียดาย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ทรมานเหล่านี้ป้องกันได้ สามารถผ่านพ้นไปได้หากได้รับการรักษาดูแลอย่างเหมาะสม

หมอตระหนักดีว่าผู้รับบริการแต่ละท่านมีประสบการณ์ทุกข์ทรมานส่วนตัวทั้งทางจิตใจและร่างกาย มันไม่ง่ายเลยในการที่จะเอ่ยปากยื่นมือขอความช่วยเหลือ คุณคงต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากที่จะมาพบทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวชเพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยและรักษา ดังนั้นหมอและทีมงานจึงกล้าที่จะเริ่มกายใจคลินิกแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้คุณและครอบครัวได้เข้าถึงการรักษาที่มีมาตรฐานตามหลักการแพทย์สมัยใหม่ พร้อมความเอาใจใส่จากทีมผู้ดูแล และมีความเป็นส่วนตัว สะดวก เดินทางง่าย กายใจคลินิกมีปณิธานที่จะเป็นส่วนเล็กๆในสังคมที่ร่วมดูแลรักษาทางจิตเวชให้ดีที่สุด เพื่อให้ผู้รับบริการของเราหายเจ็บป่วย ฟื้นฟูกลับไปสู่ภาวะปกติ กลับไปทำหน้าที่ในครอบครัว สถานศึกษา ที่ทำงานของตัวเองได้ ทำให้สังคมเราก้าวต่อไปด้วยกันอย่างสงบสุขและเข้มแข็งที่สุด

สุดท้ายหมอขอขอบคุณทีมจิตแพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่บริหารของเราทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจกันสร้างพัฒนาคลินิกของเรา ขอบคุณแพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์จิตรักษ์โรงพยาบาลกรุงเทพที่ช่วยเหลือสนับสนุนให้หมอได้ทำตามฝันของตน ขอบคุณคณาจารย์ในภาควิชาจิตเวชศาสตร์ จุฬาฯ โดยเฉพาะอาจารย์นายแพทย์นิพัทธิ์ กาญจนธนาเลิศ ที่ช่วยประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ทางการแพทย์พยาบาลให้แก่พวกเรา และขอบคุณผู้รับบริการและครอบครัวทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเราในการร่วมดูแลคุณและคนที่คุณรัก